หลังจากที่นักแสดงหญิงนิรนามได้ยื่นฟ้องร้องเอาผิดผู้กำกับภาพยนตร์มือรางวัลชาวเกาหลีใต้ คิม กีด็อก(Kim Ki-duk) ด้วยข้อหาบังคับขืนใจให้เธอแสดงฉากลามกอนาจารในหนังดัง "มอเบียส" (Moebius) หรือชื่อภาคภาษาไทย "ครอบครัวเพศวิปริต" เมื่อปี 2013 แต่ปรากฎว่าไม่อาจจะดำเนินคดีคู่กรณีได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงทางเพศเกาหลี (Korea Sexual Violence Relief Center) กรุงโซล ดาราสาวที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามกล่าวจากหลังม่านสีขาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
"มันไม่ใช่ว่าฉันมาแสดงตัวหลังจากที่ปล่อยผ่านนาน 4 ปีแล้วค่อยมาฟ้องร้อง คดีนี้มันใช้เวลาตลอดทั้ง 4 ปีต่างหากล่ะถึงจะฟ้องร้องได้ซะที"
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการกลางกรุงโซล ระบุว่าจะตั้งข้อหา คิม กีด็อก เพียงกระทงเดียวคือทำร้ายร่างกายที่มีโทษปรับสูงสุดเพียง 5 ล้านวอน (ประมาณ 161,500 บาท) โดยตัดข้อหาบังคับขืนใจ, ล่วงละเมิดทางเพศ และหมิ่นประมาทออกไปทั้งหมด โดยทาง "นักแสดงหญิง เอ" (นามสมมติ) ในหน้าสื่อกิมจิยืนยันว่าเธอจะอุทธรณ์คำตัดสินใจดังกล่าว
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นักแสดงหญิงคนดังกล่าวที่ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสหพันธ์สหภาพคนทำงานภาพยนตร์เกาหลี (Korea Federation of Movie Workers’ Union) ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือในการฟ้องร้องดำเนินคดีในเวลาต่อมา ได้อ้างว่าถูก คิม กีด็อก ตบหน้า 3 ครั้งต่อหน้าทีมงานกองถ่ายเพื่อบีบบังคับให้เธอจับอวัยวะเพศของนักแสดงชายในฉากเซ็กซ์ ทั้งๆ ที่ตอนแรกตกลงกันว่าจะใช้อวัยวะเพศชายเทียม
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา คิม กีด็อก เป็นผู้กำกับภาพยนต์เกาหลีเพียงหนึ่งเดียวที่เคยคว้ารางวัลใหญ่จากเทศกาลหนังเบอร์ลิน, เวนิส และคานส์ ได้ให้ปากคำกับตำรวจว่าตนยอมรับว่าทำร้ายร่างกายเธอจริงๆ แต่ทำไปก็เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเธอในการแสดงฉากดังกล่าวเท่านั้นเอง ส่วนข้อกล่าวหาบังคับขืนใจให้เธอแสดงฉากลามกอนาจารนั้น เจ้าตัวกลับบอกว่าจำไม่ได้ว่าเคยทำอะไรแบบนั้น ขณะที่ทางด้านค่ายหนังของ คิม กีด็อก ยังกล่าวหาว่าเธอทิ้งงานแสดงไปดื้อๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งๆ ที่เธอยืนยันว่าถูกเปลี่ยนตัวแสดง และการกล่าวหาว่าเธอทิ้งงานยังถือเป็นการสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงในแวดวงบันเทิงอีกด้วย
เครดิตภาพ : AFP, Yonhap, Moebius/Next Entertainment
ทื่มา สยามดารา
