4/26/2567

นัมกยูริ (Nam Gyu Ri) เล่าซีรีส์นอกจอที่เธอเคยถูกเพื่อนนักแสดงหลอกใช้

นัมกยูริ (Nam Gyu Ri) ได้เข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ Strong Heart VS ทางช่อง SBS วันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา


ระหว่างพูดกันในรายการ นัมกยูริ ได้เล่าว่าเธอเพิ่งมารู้ตัวทีหลังว่าตัวเองโดนนักแสดงหญิงคนอื่นหลอกใช้

“ตอนแรกฉันไม่รู้ตัวค่ะว่าตัวเองโดนแบน ฉันแค่คิดว่าตัวเองใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากกว่าคนอื่นเพราะฉันแตกต่างจากคนอื่นนิดหน่อย”


เธอเล่าต่อ

“แต่ก็จะมีบ้างที่ฉันไปรวมตัวกับนักแสดงหหญิงคนอื่น และกลายเป็นว่าฉันโดยหลอกใช้ ฉันเพิ่งมารู้ตัวหลังจากนั้นไม่กี่ปี” 

“พวกเขาโทรหาฉันแค่ตอนที่อยากหาคนขับรถ พวกเขาบอกฉันตลอดว่าเอารถมาด้วยเพราะว่าพวกเขาจอดรถไว้ที่บ้าน พวกเขาทำแบบนี้เวลาที่ต้องไปที่ไหนที่ขับรถไปลำบาก” 

นัมกยูริเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้ว่าถูกหลอกใช้ว่า

“หลังจากนั้นไม่กี่ปี ฉันได้ทำงานกับโปรเจคหนึ่งที่มีคนจากกลุ่มนั้นทำงานด้วย หลังจากโปรเจคจบ เราก็ติดต่อกันตลอด ฉันเลยรู้เรื่องว่านักแสดงคนอื่นมักจะเช็คว่าฉันจะทำงานกับโปรเจคไหน” 


พิธีกรถามเธอว่า

“จริงเหรอ? พวกเขาต้องอิจฉาคุณแน่ๆ” 


นัมกยูริปิดท้ายว่า

“ฉันคิดว่าคนเราก็อิจฉากันได้เมื่ออยากได้ในสิ่งที่พวกเขาไม่มี แต่ฉันมักจะคิดถึงช่วงเวลาดีๆที่ได้ใช้กับพวกเขาเสมอ มันดีมากเวลาที่มีคนโทรมาแสดงความยินดี ฉันสงสัยว่าจะมีคนแสดงความยินดีกับฉันอย่างจริงใจไหมเวลาที่ผลงานออกมาดี”

ที่มา www.popcornfor2.com

4/25/2567

ข่าวด่วน SM ประกาศพักงาน เหรินจวิ้น(Renjun) สมาชิก NCT

เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา SM Entertainment ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเพื่อประกาศการพักงานโปรโมทของ Renjun สมาชิก NCT ชั่วคราว


โดยแถลงการณ์มีข้อความว่า

"สวัสดี.

เราแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับการโปรโมตของสมาชิก NCT Renjun

เมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากประสบปัญหาด้านสุขภาพและอาการวิตกกังวล เหรินจวิ้นได้ไปโรงพยาบาล และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์แนะนำให้เขาพักผ่อน

โดยสรุปว่าสุขภาพของศิลปินมีความสำคัญสูงสุด เราได้ตัดสินใจหลังจากการปรึกษาหารือกับ เหรินจวิ้น(Renjun) หลายครั้งว่าเขาจะมุ่งเน้นไปที่การฟื้นตัวของเขา

ด้วยเหตุนี้


เหรินจวิ้นจะไม่เข้าร่วมในตารางงานกลุ่มที่กำลังจะมีขึ้น โดยเริ่มจากงานแฟนไซน์ที่กำหนดไว้ในวันนี้ (20 เมษายน) เราจะแจ้งให้คุณทราบอีกครั้งเมื่ออาการของเขาดีขึ้นและสามารถพิจารณาต่อโปรโมชั่นได้

คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งที่ 3 ของ NCT Dream 'The Dream Show 3 : Dream( )scape' ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤษภาคม จะดำเนินการโดยมีสมาชิก 6 คนเข้าร่วม เราขอให้คุณเข้าใจ เราอยากจะขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้คุณเป็นกังวล นอกจากนี้เรายังสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้เหรินจวิ้นกลับมาทักทายแฟนๆ ด้วยภาพลักษณ์ที่ดี


สุดท้ายนี้ SM Entertainment ติดตามและดำเนินการทางกฎหมายอย่างต่อเนื่องต่อกิจกรรมที่เป็นอันตรายทั้งหมดทางออนไลน์ รวมถึงการใส่ร้าย การล่วงละเมิดทางเพศ การเผยแพร่ข่าวลือที่เป็นเท็จ การเยาะเย้ย และการหมิ่นประมาทตัวละคร ซึ่งกระทำต่อศิลปินในต้นสังกัดของเรา รวมถึง เหรินจวิ้น(Renjun) เราวางแผนที่จะให้บุคคลทุกคนต้องรับผิดชอบตามกฎหมายโดยไม่มีการผ่อนผันหรือการตกลงยอมความ และเราสัญญาว่าจะปกป้องสิทธิ์ของศิลปินในเอเจนซี่ของเราต่อไป"

ที่มา teenee.com

 

4/24/2567

Dispatch เผย โบมี (Bomi) ออกเดท ราโด (Rado)โปรดิวเซอร์ดัง

Dispatch สำนักข่าวดังแดนกิมจิเปิดข่าวเดท ‘โบมี Apink’ กับ ‘ราโด’ โปรดิวเซอร์ดัง คบกันนาน 8 ปี ตั้งแต่เมษายน 2017 โดยพัฒนาความสัมพันธ์จากการทำงานเพลงร่วมกัน


วานนี้ (23 เมษายน 2567) สำนักข่าว daum รายงานว่า ยุนโบมี (Yoon Bomi) สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป APink ออกเดทกับ เรโด (Rado) Black Eyed Pilseung โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลง มาเป็นเวลานานถึง 8 ปี


Dispatch รายงานว่า ราโดและยุนโบมีเริ่มออกเดทกัน ตั้งแต่ในเดือนเมษายน ปี 2017 ซึ่งจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของพวกเขาคือการสร้างผลงานเพลงร่วมกัน และตั้งแต่นั้นก็ได้คบหาคู่ใจกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

โดยในปี 2016 Apink เปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ที่มีชื่อว่า ‘Pink Revolution’ โดยมีเพลงไตเติ้ลคือ So that I can be enjoyed ที่มีผลงานการประพันธ์เนื้อเพลงและเรียบเรียงของ Black Eyed Pilseung หรือ ราโด ซึ่งเพลงนี้ก็ได้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง อีกทั้งนับเป็นการทำงานร่วมกันครั้งแรกของพวกเขาในฐานะนักแต่งเพลงและนักร้องด้วย


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองเป็นแรงสนับสนุนให้กันและกันมาเสมอ ในฐานะนักแต่งเพลงและนักร้อง โดยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เรโดสนับสนุนผลงานเพลงของของโบมี และโบมีก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับเรโดด้วยเช่นกัน

เพื่อนสนิทของทั้งสองได้กล่าวด้วยว่า “เรโดเป็นที่ปรึกษาที่โบมีไว้วางใจที่สุด ในขณะเดียวกันยุนโบมีก็คอยมอบความเข้มแข็งให้กับเรโด”


ล่าสุด ช่วงเที่ยงของวันที่ 23 เม.ย ที่ผ่านมา โบมีได้โพสต์จดหมายลายมือลงในแฟนคาเฟ่ โดยได้ขอโทษแฟนคลับที่ทำให้ตกใจกับข่าวเดทที่เกิดขึ้น ก่อนจะเล่าว่าทั้งคู่พัฒนาความรู้สึกและเริ่มตัดสินใจเดทจากการทำงานเพลงด้วยกัน การคบกับเรโดทำให้เธอเติบโตขึ้นและสุขภาพดีมากขึ้น พร้อมทิ้งท้ายว่าเธอเคารพหัวใจของแฟน ๆ ทุกคน และจะตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ต่อไปในอนาคต

สำหรับผลงานที่ผ่านมาของ ‘เรโด’ เขาทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ของ Hi-Up Entertainment ทั้งยังเขียนเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘Fancy’, ‘TT’ และ ‘Cheer Up’ ของ TWICE รวมถึงเพลง ‘Nothing’, ‘ i’m so sick’, ‘Dumhdurum’, ‘ %%’ และ ‘Dilemma’ ของ Apink



ล่าสุด ศิลปินสาว ‘ยุนโบมี’ กำลังเป็นที่รู้จักและได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามจากบุคลิกที่ซื่อสัตย์และอบอุ่นของเธอจากบทบาท นาแชยอน เลขาประจำตัวของนางเอก ในซีรีส์เรื่อง Queen of Tears ออกอากาศทางช่อง tvN



ที่มา thethaiger.com

4/23/2567

ยุนอา (Yoona) เผยก่อนจะได้เดบิวต์กับ Girls' Generation เธอออดิชั่นมามากกว่าสองร้อยครั้ง

ยุนอา(Yoona)ได้ร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ Fairy Table ของ จองแจฮยอง (Jung Jae-hyung) ทาง YouTube เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา

 


โดยระหว่างรายการที่ยุนอาพูดคุยกับจองแจฮยอง เธอได้เล่าถึงเส้นทางการได้เดบิวต์ของเธอกับ Girls' Generation ว่า

“ตอนนั้นฉันยังเป็นนักเรียนอยู่เลยค่ะ ฉันชอบแสดงเวลามีการแข่งขันความสามารถพิเศษในโรงเรียน ฉันเคยร้องและเต้นเพลงของ S.E.S และ Fin.K.L”

“เมื่อก่อนเคยมีโปสเตอร์โฆษณาให้เข้ามาออดิชั่นของ SM Entertainment ซึ่งศิลปินในสังกัดมักจะบ่น แต่ฉันออดิชั่นเพราะเห็นโปสเตอร์อันนั้นค่ะ” 

“ตอนที่ไปถึงสถานที่ออดิชั่น ผู้อำนวยการคัดเลือกบอกประมาณว่า ‘เธอน่ารักนะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ควรหยุดจัดการออดิชั่นทั่วไป แม้ว่าจะมีคนไม่ชอบก็ตาม’ พวกเขาชอบฉันค่ะ ตอนนั้นฉันอายุ 13”  

แต่หลังจากเข้า SM Entertainment ยุนอาบอกว่าเธอได้ไปออดิชั่นมากกว่า 100 ครั้ง เพื่องานโฆษณา, ภาพยนตร์, ซีรีส์ และอีกมากมาย 

“ฉันเดบิวต์กับวง Girls' Generation ตอนที่กำลังถ่ายซีรีส์อยู่ ตอนนั้นฉันออดิชั่นไปเยอะมาก ฉันออดิชั่นมากกว่า 200 ครั้งสำหรับงานโฆษณา, ภาพยนตร์ และซีรีส์รวมกัน มีทั้งที่ผ่านและไม่ผ่าน ฉันเคยออดิชั่นสำหรับโฆษณาตัวเดียวซ้ำๆกันหลายครั้งด้วย” 


ยุนอาเล่าต่อว่า

“นิสัยของฉันก็ค่อยๆเปลี่ยนไปค่ะ ปกติเวลาไปออดิชั่นฉันจะไม่ค่อยพูด แต่พอนานไป ฉันก็มั่นใจพอจะพูดว่า ‘ฉันจะลองทำแบบนี้’ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก และตลอดการเดินทางทั้งหมดจุดประกายความมุ่งมั่นของฉัน”

“ถ้าฉันไม่ประสบความสำเร็จ ฉันจะดูที่ผลลัพธ์ ฉันจะคิดว่าบางอย่างอาจจะเหมาะกับคนอื่นมากกว่าฉัน จนถึงตอนนี้ ฉันยังคิดว่าถ้าสิ่งที่ฉันไม่ได้เลือก แต่มันกลับออกมาดี ฉันก็คิดว่ามันคือผลลัพธ์จากตัวเลือกนั้นค่ะ”

ที่มา www.popcornfor2.com

4/12/2567

ชาวเน็ตจวกยับ! คิมจีวอน(Kim Ji Won) ไม่มีชื่อเข้าชิงรางวัลเวทีใหญ่

กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตจับตาว่า นางเอกดัง คิมจีวอน(Kim Ji Won) โด่งดังอย่างมากในขณะนี้ อาจถูกกีดกันจากการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ '60th Baeksang Arts Awards'


หลังจากมีการเปิดเผยการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 'Baeksang Arts Awards' ครั้งที่ 60 มีข่าวลืออย่างมากเมื่อไร้ชื่อของนางเอกดัง คิมจีวอน(Kim Ji Won) นักแสดงนําในซีรีส์ยอดนิยม 'Queen of Tears' เนื่องจากคิมจีวอนจะประสบความสําเร็จอย่างมากจากละครเรื่องดังกล่าว

ประเด็นถกเถียงดังกล่าว ยิ่งร้อนแรงมากขึ้น จากการที่พระเอกของ'Queen of Tears' คิมซูฮยอน(Kim Soo Hyun) ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงในรางวัล นักแสดงนําชายยอดเยี่ยมด้วย แต่กลับไม่มีชื่อของคิมจีวอน

โดยชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า

"ผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้นดีมาก แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทําไม คิมจีวอน ถึงหายไปจากรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อ"

 "ทําไมเธอถึงไม่อยู่ในรายชื่อ? ฉันไม่เข้าใจ"

"เธอเป็นนักแสดงที่โด่งดังที่สุดในตอนนี้? ทําไมเธอถึงไม่ถูกเสนอชื่อ"

"เธอจําเป็นต้องถูกเพิ่มเข้าไปในรายการ"

"อาจเป็นเพราะเธอไม่มีสปอนเซอร์"

"มันน่าผิดหวังมากที่เธอไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในรายการ"

และ "ตอนนี้เธอดังมาก! เธอจะไม่ได้รับการเสนอชื่อได้อย่างไร"

ในขณะที่ซีรีส์ 'Queen of Tears' ยังคงทำสถิติเรตติ้งผู้ชมสูงสุด ปัจจุบันขณะออกอากาศตอนที่ 10 เมื่อวันที่ 7 เมษายน เรตติ้งอยู่ที่ 19% และใกล้จะเกิน 20%แล้ว โดย 'Queen of Tears' ออกอากาศทาง TVN ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 21:20 น.


ที่มา teenee.com

4/11/2567

เเฟนคลับ เคือง ผจก. มินนี่(Minnie) (G)I-DLE เดี๋ยวเเตะเดี๋ยวจับ มากเกินความจำเป็น

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ เมื่อบรรดาเเฟนคลับทั่วโลกของ ‘มินนี่ (Minnie) (G)I-DLE' หรือ ‘ณิชา ยนตรรักษ์' สังเกตเห็นว่าผู้จัดการชายที่ตามไปดูเเลมินนี่ตามงานต่างๆ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม



โดยเเฟนคลับชาวไทยเเละเเฟนคลับอินเตอร์ต่างพร้อมใจพากันโพสต์พฤติกรรมของผู้จัดการคนนี้ว่า

-ในงานแจกลายเซ็นต์ รู้อยู่แล้วว่าแฟน ๆ ต้องถ่ายรูป แต่ก็ยังยืนอยู่หลังเก้าอี้ของมินนี่โดยเอามือวางไว้ด้วย ตอนที่มินนี่กำลังเลือกพร็อบ ก็เข้ามาอยู่ใกล้ๆ ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องให้ต้องช่วยเหลือ

-(G)I-DLE เข้ามาพูดคุยกับแฟนๆ อยู่ ผู้จัดการคนนี้ก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาและพูดกับมินนี่ว่า "ฉันเป็นคนถ่ายรูป IG สวยๆ ให้เธอไม่ใช่เหรอ ?" แฟนๆ ถ่ายรูปไม่ได้ คุยกับเมมเบอร์ก็ไม่ได้ และเป็นมินนี่คนเดียวที่โดนแบบนี้

-(G)I-DLE ซื้อกาแฟกันที่สนามบิน โดยใช้วิธีจับการ์ดตัดสินว่าใครจะเป็นคนจ่าย ของมินนี่ถูกจับ และต้องเป็นคนจ่าย พอมินนี่ออกมาจะเล่าเรื่องนี้ให้แฟน ๆ ที่รอฟัง ผู้จัดการคนนี้ก็ออกมาพูดขัดขึ้นว่า "ฉันรู้ว่าอยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ เพราะการ์ดของคุณสวยพอ ๆ กับหน้าของคุณเลย"

นอกจากนี้ยังมีการเเตะเนื้อต้องตัวของมินนี่จนเกินความจำเป็น โดนบรรดาเเฟนคลับได้พากันโพสต์ภาพเเละข้อความรวมไปถึงติดเเฮชเเท็ก #ProtectMinnie เเละส่งอีเมลล์ไปหาทางค่าย Cube Entertainment เพื่อให้ทราบเรื่องนี้เเละออกมาปกป้องศิลปิน


ที่มา ที่นี่ดอทคอม


4/10/2567

ฮันฮโยจู (Han Hyo-joo) และ จูจีฮุน (Ju Ji-hoon) ร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องใหม่ 'Blood Free'

ฮันฮโยจู (Han Hyo-joo) ร่วมงานกับ จูจีฮุน (Ju Ji-hoon) ในผลงานระทึกขวัญไซ-ไฟ เรื่องใหม่ 'Blood Free'


การกลับมาร่วมงานกับ Disney+ ของฮันฮโยจู (Han Hyo-joo) ในซีรีส์เรื่องใหม่ 'Blood Free' หลังจากรับบทนำในซีรีส์เรื่อง "Moving" บนแพลตฟอร์ม Disney+ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากบนแพลตฟอร์มเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

ฮันฮโยจูกล่าวในงานแถลงข่าวซีรีส์ที่จัดขึ้นที่โรงแรม Conrad Seoul ในวันที่ 8 เมษายนว่า 

“บท [ของซีรีส์] ยอดเยี่ยมมากและเข้ากับ [สถานการณ์] ฉันสนุกกับบทมากจนเอาไปเขียนในไดอารี่หลังจากได้อ่านบทเรื่องนี้”

“ฉันมีความสุขมากที่ในที่สุดก็มีบทดีๆมาให้ฉัน บทเรื่องนี้ทำใจฉันเต้นแรงเลยค่ะ” 


'Blood Free' จะออกอากาศในวันพุธ เป็นการเล่าเรื่องของ ยุนจายู (รับบทโดย ฮันฮโยจู) ซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ทดลองเกี่ยวกับการสังเคราะห์เนื้อในห้องแลป เธอคือผู้บุกเบิกในวงการนี้ และกลายเป็นคนมีชื่อเสียง และถูกคุกคาม ทำให้เธอต้องจ้าง อูแชอุน (รับบทโดย จูจีฮุน (Ju Ji-hoon)) มาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว

ยุนจายู และ อูแชอุน เริ่มสืบหาปริศนาการตายรอบตัวของพวกเขา และทั้งคู่ได้เจอกับความจริงที่ซ่อนอยู่หลังเหตุการณ์เหล่านั้น

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานของนักเขียนบท อีซูยอน ที่เคยฝากผลงานงานไว้ในเรื่อง Stranger (2017) และ ผู้กำกับ พัคชอลฮวาน ที่เคยร่วมงานกับ Disney+ มาแล้วในเรื่อง Grid (2022)


ฮันฮโยจูบอกว่าเธอพยายามถ่ายทอดตัวละครให้ออกมาลึกลับและมีปริศนาซ่อนอยู่

“ฉันอยากให้ ยุนจายู เป็นคนที่ดูลึกลับเวลาที่เห็นเธอครั้งแรก ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนดีหรือไม่ดี เพราะว่าเธอไม่ค่อยแสดงอารมณ์ ฉันเลยต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะแสดงสีหน้าออกมาให้หลากหลายให้ได้”

“ฉันพยายามสร้างตัวละครที่เหมือนกับใบไม้ที่ร่วงไปแล้ว ไม่เปิดเผยความรู้สึกของเธอ”

จูจีฮุน รับบทเป็น อดีตทหารที่เข้าหายุนจายูด้วยความลับบางอย่าง 

“อูแชอุน เป็นทหารที่ผันตัวมาเป็นบอดี้การ์ด เขาเคยได้รับคำสั่งให้ปกป้องประธานาธิบดีจากการถูกลอบทำร้าย เขาปกปิดตัวตนเพื่อหาคนที่บงการการลอบทำร้ายนั้น”

“ผมรู้สึกท้าทายเพราะว่าฉากในซีรีส์เป็นเรื่องที่เกิดในอนาคตอันใกล้ ผมคิดว่าเขาต้องดูสมจริงเพื่อทำให้เนื้อเรื่องสามารถโน้มน้าวผู้ชมให้เชื่อได้”

ผู้กำกับพัคชอลฮวาน บอกว่าซีรีส์เล่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เขาจึงพยายามจะทำให้สมจริงที่สุดแม้ว่าจะเป็นซีรีส์แนวไซ-ไฟก็ตาม 

“ตอนที่เราถ่ายทำ ผมไม่คิดว่าเรื่อง AI จะกลายเป็นประเด็นร้อนแบบในทุกวันนี้ ผมแค่อยากทำให้มันไม่ดูกระอักกระอ่วนก็พอ” 

“ตอนนี้ในชีวิตจริงก็มีเทคโนโลยี AI หรือการสร้างเซลล์เกิดขึ้นแล้ว การหาข้อมูลจากบริษัทจริงๆจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดความสมจริง ไซ-ไฟ คือส่วนหนึ่งของซีรีส์ แต่พอคุณได้ดูเรื่องนี้แล้ว มันจะมีเรื่องที่น่าติดตามจากเนื้อเรื่องที่สมจริงอยู่ด้วย” 

ที่มา www.popcornfor2.com


4/09/2567

ชาวเน็ตอึ้ง รยูจุนยอล(Ryu Jun Yeol) และ ฮเยริ(Hyeri) อาจได้อยู่ค่ายเดียวกัน

ชาวเน็ตเกาหลีแห่คอมเมนต์ หลังรู้ข่าวว่า รยูจุนยอล(Ryu Jun Yeol) และ ฮเยริ(Hyeri) อาจต้องเป็นนักแสดงค่ายเดียวกัน ที่เพิ่งเกิดเหตุดราม่าความสัมพันธ์เมื่อไม่กี่วันก่อน


เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า นักแสดงหนุ่ม รยูจุนยอล จะได้กลายเป็นนักแสดงในบริษัทต้นสังกัดเดียวกับอดีตแฟนสาว ฮเยริ งานนี้ทำเอาหลายคนจับตาความสัมพันธ์ หลังมีประเด็นดราม่าร่วมกับ ฮันโซฮี

มีรายงานการเปิดเผยว่า C-JeS Studio ได้เข้าซื้อกิจการ Creative Group ING ด้วยมูลค่า 1.3 พันล้านวอน (35,233,038 บาทไทย) โดยหลังจากการซื้อกิจการ เอเจนซี่ทั้งสองจะรวมตัวกันเป็นบริษัทร่วมกันจัดการศิลปิน ทำให้รยูจุนยอลและฮเยริ กลายเป็นนักแสดงในสังกัดเดียวกันไปโดยปริยาย

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากชาวเน็ตยังคงจับตาความสัมพันธ์ระหว่าง รยูจุนยอล ซึ่งเลิกรากับ ฮเยริ ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน พร้อมทั้งยังมีดราม่ารักครั้งใหม่ที่กลายเป็นกระแสข่าวโด่งดังที่จบลงไปอย่างรวดเร็วของฝ่ายชาย งานนี้ทำให้หลายคนพากันเข้ามาคอมเมนต์อย่างออกรส อาทิ

แปลว่า C-JeS ได้ซื้อ Creative Group ING สำเร็จแล้วสิ

นี่มันเรื่องตลกอะไรเนี่ย

ฉันอยากเห็นพวกเขากลับมาคบกันอ่ะ

ใครจะไปรู้ พวกเขาอาจกลับมาคบกันอีกครั้ง หลังได้อยู่ในสังกัดเดียวกันก็ได้

เรื่องนี้น่าสนใจจัง

คงต้องจับตาดูพวกเขาไปอีกยาวๆ

เมื่อปลายปี 2023 ฮเยริและรยูจุนยอลยุติความสัมพันธ์ลง หลังจากที่คบหากันมานาน 7 ปี จนกระทั่งในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการยืนยันว่าฝ่ายชายปลูกต้นรักครั้งใหม่กับนางเอกหน้าสวย ฮันโซฮี ซึ่งมีการโพสต์ปะทะเดือดในโลกออนไลน์ ก่อนที่ความสัมพันธ์ของ รยูจุนยอล และ ฮันโซฮี จะจบลงเช่นเดียวกัน.

ที่มา thethaiger.com


4/05/2567

ANDMARQ ปัดข่าวลือเรื่องความรุนแรงในโรงเรียนของ จอนจงซอ (Jeon Jong Seo)

ANDMARQ ต้นสังกัดของ จอนจงซอ (Jeon Jong Seo) ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องความรุนแรงในโรงเรียน พร้อมทั้งเตือนจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับข่าวลือเท็จ


เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2024 ที่ผ่านมา ANDMARQ ต้นสังกัดของ จอนจงซอ (Jeon Jong Seo) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข่าวลือว่าเธอเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในโรงเรียนว่า:

“สวัสดีจาก ANDMARQ 

ก่อนอื่น เราต้องขอขอบคุณแฟนคลับที่เป็นกำลังใจและมอบความรักให้กับ จอนจงซอ ศิลปินในต้นสังกัดของเรา

เราได้รับรู้ว่าตอนนี้มีการปล่อยข้อมูลเท็จและข่าวลือเกี่ยวกับนักแสดงจอนจงซอบนโลกออนไลน์และในโซเชียลมีเดีย และเราได้ตัดสินใจออกมาแถลงเพราะว่าเราไม่สามารถปล่อยให้ข่าวลือเป็นเท็จแพร่สะพัดจนเกินควบคุมได้ 

หลังจากเราได้ทราบถึงข้อกล่าวหาที่ถูกกล่าวถึงบนอินเตอร์เน็ต เราได้ยืนยันความจริงกับนักแสดงจอนจงซอด้วยตัวเอง รวมถึงคนรู้จักของเธอ และเราได้ทราบว่าคำกล่าวหาเหล่านั้นเป็นความเท็จทั้งหมด

จนถึงตอนนี้เราไม่ได้ออกมาตอบโต้ใดใดเกี่ยวกับข่าวลือดังกล่าว เพราะเชื่อว่าเป็นแค่ข่าวที่ไม่มีมูล อย่างไรก็ตามกลับมีการเผยแพร่เนื้อหาอย่างไม่ระมัดระวัง รวมถึงมีโพสที่เขียนคาดเดาและคอมเม้นท์หยาบคายมากขึ้น ทำให้ไม่ใช่แค่ศิลปินที่ได้รับความเจ็บปวดทางจิตใจ ยังรวมไปถึงคนรอบตัวของเธอด้วย ดังนั้นจากนี้เป็นต้นไป เราตั้งใจจะดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อปกป้องศิลปินของเรา 

เราขอแจ้งให้ทราบว่าหลังจากที่เราออกแถลงการณ์ฉบับนี้ โพสทุกโพส, การรายงานข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยัน, คำกล่าวหาที่มาจากฝั่งเดียว, การกระทำหรือคอมเม้นท์หยาบคายที่เกิดขอบเขตการแสดงความคิดเห็นจะต้องได้รับการตอบโต้อย่างเข้มงวด

เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อปกป้องเกียรติและสิทธิของศิลปินของเรา” 

ดยก่อนหน้านี้ ได้มีชาวเน็ตออกมาโพสว่า จอนจงซอ เคยใช้ความรุนแรงในโรงเรียน และยังบอกอีกว่าต้นสังกัดของเธอพยายามปิดข่าวด้วยการตามลบโพสที่เขียนถึงเหตุการณ์นั้น

ที่มา  allkpopwww.popcornfor2.com

4/04/2567

แห่ชม อีดงอุค (Lee Dong Wook) ถือกระเป๋าให้ทีมงานแต่งหน้าเองในกองถ่าย

แฟนคลับเอ็นดู พระเอกเกาหลีชื่อดัง อีดงอุค (Lee Dong Wook) เมื่อถูกเผยภาพสุดติดดิน ถือกระเป๋าให้ทีมงานในกองถ่าย และยังมีโมเมนต์แต่งหน้าเองด้วย


ภาพความน่ารักใจดีของพระเอกเกาหลีชื่อดัง อีดงอุค (Lee Dong Wook) กลายเป็นไวรัลเลยทีเดียว เมื่อมีการเปิดเผยภาพเบื้องหลังจากกองถ่าย ที่เผยให้เห็นว่าอีดงอุคช่วยสะพายกระเป๋าของพนักงาน ที่เต็มไปด้วยของใช้หลากหลายอย่าง อีกทั้งยังยืนหลบมุมแต่งหน้าด้วยตัวเอง ทำเอาสาวๆ ใจละลาย แพ้ผู้ชายหล่อ ใจดี แถมมีน้ำใจ


อีดงอุค เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 1981 ที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงชายแถวหน้าของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดโดยอีดงอุคเดบิวต์ครั้งแรกผ่านซีรีส์สั้น Best Theater ตอน There’s a world outside of the road ในปี 1999  

หลังจากเข้าวงการมาได้ไม่นาน อีดงอุคก็เริ่มมีผลงานการแสดงมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ชื่อเสียงของเจ้าตัวโด่งดัง จนติดโผนักแสดงหนุ่มขวัญใจคนทั่วโลก โดยผลงานเด่นของอีดงอุคมีอยู่ด้วยกันหลายสิบเรื่อง อาทิ

My Girl (2005)

Scent of a Woman (2011)

Guardian: The Lonely and Great God (2016-2017)

Life (2018)

Strangers from Hell (2019)

Tale of the Nine Tailed (2020)

Bad and Crazy (2021)

Tale of the Nine Tailed 1938 (2023)

A Shop For Killers (2024)


แฟนที่อยากติดตามผลงานและไลฟ์สไตล์ด้านอื่นๆ ของอีดงอุค สามารถไปติดตามได้ที่ไอจี IG : leedongwook_official กันได้เลย.



ที่มา thethaiger.com


4/02/2567

ควอนนารา (Kwon Na Ra) – HELLOVENUS เผยเคยโกหกต้นสังกัดเพื่อแอบไปเที่ยวคลับ

รายการ "Zzan Bro" ของ ชินดงยอบ (Shin Dong-yeop) ทาง YouTube เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 ทีผ่านมา ควอนนารา (Kwon Na Ra) วง HELLOVENUS ได้มาเป็นแขกในรายการ


ระหว่างพูดคุยกันในรายการ ควอนนารา ได้เล่าถึงวีรกรรมตอนที่เธอยังเป็นไอดอลอยู่ว่า ตอนนั้นมีกฎระเบียบและข้อห้ามเยอะมาก

“เราเคยอยู่ที่หอพักด้วยกัน และส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นวง ในช่วงนั้นเราอยู่ที่เดียวกับผู้อำนวยการต้นสังกัดของเรา” 

จากนั้นควอนนาราได้เล่าเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นตอนที่เธอเป็นไอดอล

“ตอนนั้นเวลาเรากำลังไดเอท ก็จะรู้สึกว่าอยากกินไก่ทอดขึ้นมา”

เธอเล่าต่อ

“ตอนนั้นเราจะมีช่วงเวลาที่ได้เข้าไปคุยเรื่องกังวลกับผู้อำนวยการทีละคน เพราะว่าเรามี 6 คน เราก็จะผลัดกันเข้าไปในห้องผู้อำนวยการ ส่วนคนที่เหลือก็จะทำหน้าที่ซื้อไก่มากินอีกห้องนึง” 


ควอนนารายังเล่าถึงตอนที่พวกเธอไปเที่ยวคลับ

“เราจะแบบ ‘ตอนนี้เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไปเที่ยวคลับกันเถอะ’ เราเลยไปคลับที่กังนัม ฉันยังจำชื่อคลับได้อยู่เลย ชื่อ NB ค่ะ”


เธอเล่าต่อ

“เราบอกกับผู้อำนวยการว่าเราจะไปซาวน่า เพราะว่ามีสมาชิก 2 คนในวงยังเป็นผู้เยาว์ เราเลยไปซาวน่ากันจริงๆ แล้วอยู่ที่นั่นซักพัก ก่อนพวกเราที่เหลือจะไปคลับ”

“หนึ่งในพวกเราถึงกับมีโทรศัพท์อีกเครื่องเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่มีอยู่วันหนึ่ง เธอลืมโทรศัพท์ไว้ในรถตู้ของเรา และเราโดนจับได้ว่าโกหก วันนั้นพวกเราทุกคนโดนยึดมือถือ และยังถูกห้ามไปให้เข้าห้องซ้อมเต้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์”

ภาพจาก kpopping.com

เธอพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

“จริงๆเราชอบมาก เพราะหมายถึงเราไม่ต้องไปซ้อมเต้นเป็นสัปดาห์เลย เราเพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลาในสัปดาห์นั้น มีความสุขมากๆเลยค่ะ”

ที่มา www.popcornfor2.com

4/01/2567

อารึม (Areum) อดีตสมาชิก T-ARA พยายามฆ่าตัวตายถูกหามส่งโรงพยาบาล

แฟนๆ สุดห่วง อารึม(Areum) อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป T-ARA ที่กำลังเป็นข่าวฟ้องหย่าอดีตสามีที่ทำร้ายร่างกายลูก ล่าสุดถูกหามตัวส่งโรงพยาบาล จากการพยายามจบชีวิตตัวเอง เบื้องต้นยังไม่ทราบแรงจูงใจแน่ชัด


สำนักข่าว naver รายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ช่วงเช้าตรู่วันที่ 27 มีนาคม 2567 อารึม (Lee Areum) อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป T-ARA ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หลังจากที่เธอพยายามฆ่าตัวตาย โดยอดีตไอดอลสาวอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เป็นที่เรียบร้อย และสำหรับอาการเบื้องต้นตามที่แฟนหนุ่มคนปัจจุบันได้แจ้งไว้บนอินสตาแกรม พบว่าอารึมยังไม่ฟื้นคืนสติ

การตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในครั้งนี้ เป็นช่วงคาบเกี่ยวในระหว่างที่อารึมกำลังดำเนินการฟ้องหย่าอดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจ โดยทั้งคู่แต่งงานกันในปีพ.ศ. 2562 และมีลูกชายด้วยกันถึง 2 คน และในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก่อนได้ประกาศเปิดตัวแฟนหนุ่มคนใหม่ พร้อมแจ้งข่าวการหย่าร้างกับอดีตคู่ชีวิต โดยเธอเผยว่าวางแผนที่จะเริ่มต้นใหม่กับแฟนทันทีที่คดีหย่าร้างสิ้นสุดลง

จนกระทั่งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อดีตไอดอลสาวได้โพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมส่วนตัว โดยอ้างว่า ลูก ๆ ทั้งสองคนถูกทารุณกรรมอย่างหนักจากพ่อของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการปัสสาวะใส่หน้าลูก และการถ่ายอุจจาระต่อหน้าลูกคนโต ซึ่งเธอบอกว่า “ยิ่งได้ยินเรื่องนี้มากเท่าไหร่ หัวใจก็ยิ่งแตกสลาย” รวมถึงยังมีกรณีขู่กรรโชกทรัพย์ผู้อื่น โดยการแฮ็กมือถือของเธอ ซึ่งอารึมก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับการฟ้องหย่า การทารุณกรรมเด็ก ฯลฯ เนื่องจากเป็นการเรียกร้องฝ่ายเดียวของลี อารึม และมีข้อเท็จจริงบางอย่างที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน จึงควรหลีกเลี่ยงการตัดสินหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยด่วน เพราะอาจนำไปสู่การหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงต่ออดีตสามีของเธอ

ทั้งนี้ ก่อนที่อารึมพยายามฆ่าตัวตาย เธอได้โพสต์เรื่องราวต่างๆ หลังจากนั้นก็ได้ลบโพสต์ พร้อมทิ้งท้ายข้อความว่า “ลาก่อน”

ที่มา naverthethaiger.com

ภาพจาก : areum0ju

K-POP Mania Relate News