หลังมีข่าวลือว่า เจสสิก้า สาวสวยแห่ง Girls' Generation ได้ถูกบีบให้ออกจากวง จากเหตุที่ช่วงเช้านี้ เจสสิก้า ได้โพสต์ภาพที่จับได้ในแฟนอีเว้นท์ที่จีน มี SNSD เพียง 8 คนเท่านั้น ไม่ปราฎตัวเจสสิก้าแต่อย่างใด และสาวๆที่เหลือต่างมีสีหน้าที่ไม่สดใส ประกอบกับข้อความใน weibo ว่า
“ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับแฟนอีเว้นท์ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ แต่ก็ต้องช็อกเพราะได้รับการแจ้งจากบริษัทกับสมาชิกอีก 8 คนที่เหลือในวันนี้ว่า ฉันไม่ใช่สมาชิก(โซชิ)อีกต่อไปแล้ว ฉันเสียใจมาก ฉันทั้งรักและให้ความสำคัญกับการเป็นสมาชิก GG อย่างที่สุด แต่กลับถูกไล่ออกจากวงอย่างไม่สมเหตุสมผล”
.
“พวกคุณคือคนพิเศษสำหรับฉัน เป็นคนที่ฉันรักมาก คุณสมควรที่จะได้รับฟังความจริงจากฉัน ฉันเสียใจมากและเจ็บปวดจากคนที่ฉันไว้ใจ หวังว่าพวกคุณจะไม่โดนความเจ็บปวดแบบนี้เหมือนที่ฉันโดน”
ประกอบกับสื่อต่างๆได้พยายามติดต่อไปที่ SM Entertainment แต่ไม่มีการรับสาย และไม่มีการออกแถลงข่าว ทำให้ข่าวลือดูจะมีมูลความจริงซะแล้ว ทำให้สื่อได้ตั้งประเด็นว่า เหตุที่ เจสสิก้าต้องออกจากวงนั้น เป็นเพราะต้องการแต่งงานกับ ไทเลอร์ ควอน
นับเป็นข่าวใหญ่ ที่ทำแฟนๆช็อคกันไม่น้อยเมื่อล่าสุดทาง SM Entertainment ได้ออกมาแถลงข่าวแล้วว่า
”สวัสดีครับ นี่คือ SM Entertainment
สำหรับจุดยืนของเราต่อข้อความที่เจสสิก้าโพสลงใน weibo วันนี้
ในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงนี้ เนื่องด้วยเหตุผลส่วนตัวของเธอ เธอจะหยุดการทำกิจกรรมในแบบทีมหลังออกอีกหนึ่งอัลบั้ม
จากคำที่เจสสิก้าได้แจ้งให้ทราบ ทางบริษัทและสมาชิกโซนยอชิแด พวกเราพยายามอย่างมากเพื่อจะหาทางออกให้งานต่างๆ ของโซนยอชิแดสามารถดำเนินต่อไปได้ในทิศทางที่ดีที่สุดแต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่ไม่ได้ที่การเจรจาที่ชัดเจนครอบคลุมดีพอจึงเกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างเรื่องของลำดับความสำคัญและความสนใจส่วนตัว
เจสสิก้าเริ่มดำเนินธุรกิจแฟชั่นของเธอ ด้วยเหตุนี้ถึงแม้จะมีการคุยกันแล้ว มันก็มาถึงจุดที่ทีมไม่สามารถประคับประครองได้อีกต่อไป
ทางบริษัทจึงไม่มีทางเลือก จึงตัดสินใจที่จะโปรโมทโซนยอชิแดต่อในฐานะสมาชิก 8 คนตามงานที่ได้วางแผนเอาไว้แล้ว
และในระหว่างที่เรากำลังวางแผนว่าจะประกาศเรื่องนี้ตอนไหน เจสสิก้าก็โพสข้อความของเธอเมื่อเช้าตรู่วันนี้
จากนี้บริษัทของเราจะยังคงให้การสนับสนุนและบริหารวงโซนยอชิแดในฐานะสมาชิก 8 คนและเจสสิก้าจะทำการโปรโมทงานเดี่ยวต่อไป”
ที่มา Fanthai.com; Dispatch
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น