11/28/2567

ลือสนั่น จองอูซอง(Jung Woo Sung) คบแฟนสาวนอกวงการซ้อนแม่ของลูก มุนกาบี(Moon Gabi)

ลือแซ่ดโซเชียลเกาหลี พระเอกดัง จองอูซอง(Jung Woo Sung) วัย 51 ปี ซุ่มคบสาวนอกวงการ ไม่ใช่ทั้งแม่ของลูก ‘มุนกาบี’ และไม่ใช่นักแสดงสาว ‘ชินฮยอนบิน’ ในข่าวลือเดท



ข่าวความสัมพันธ์ระหว่างนักแสดงมากฝีมือ วัย 51 ปี จองอูซอง และนางแบบสาว มุนกาบี วัย 35 ปี ที่ทางต้นสังกัด Artist Company ของฝ่ายชาย ได้ออกแถลงการณ์ที่มีใจความว่า 

“เด็กที่มุนกาบีเปิดเผยบนโซเชียลมีเดีย เป็นลูกชายของนักแสดง ‘จองอูซอง’ จริง และขณะนี้อยู่ในระหว่างหารือถึงวิธีที่ดีที่สุดในการเลี้ยงดูเด็ก ซึ่งจองอูซองยินดีจะรับผิดชอบต่ออย่างเต็มที่”

ล่าสุด เรื่องราวจะดูเหมือนมีความซับซ้อนขึ้นอีก เมื่อมีรายงานว่า ‘จองอูซอง’ กำลังคบหาอยู่กับสาวนอกวงการ ซึ่งไม่ใช่ ‘ชินฮยอนบิน’ นักแสดงสาวที่เคยมีข่าวลือเดทด้วยก่อนหน้านี้

สำนักข่าวเกาหลี Ten Asia รายงานว่า จองอูซอง คบหากับแฟนสาวนอกวงการมานานแล้ว โดยแหล่งข่าวใกล้ชิด เผยว่า ไม่น่าจะใช่ความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย เมื่อพิจารณาจากการที่ทั้งคู่คบหากันอย่างเปิดเผย ถึงขั้นพากันไปดินเนอร์คู่กับคู่รักคนดังอย่าง ‘อีจองแจ’ และ ‘อิมเซรยอง’ มาแล้ว

จากการที่สื่อใหญ่ออกมาเปิดเผยถึงชีวิตรักส่วนตัวของ จองอูซอง ในครั้งนี้ ได้จุดประเด็นที่ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า “นักแสดง จองอูซอง คบซ้อนหรือไม่?” เพราะเขาคบหากับแฟนสาวคนปัจจุบันมานานกว่า 1 ปีแล้ว และในขณะเดียวกัน มุนกาบี นางแบบสาว วัย 35 ปี ก็ตั้งครรภ์ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และแม้ว่าจองอูซอง จะเลิกกับ มุนกาบี ก่อนที่จะมาคบกับแฟนสาวคนปัจจุบัน แต่เขาก็ทราบเรื่องลูกนอกสมรสระหว่างเจ้าตัวกับ มุนกาบี อยู่แล้ว ซึ่งนับว่า “ไม่เหมาะสม” อย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดี มีรายงานเพิ่มเติมว่า แฟนสาวของ จองอูซอง ไม่รู้เรื่องลูกนอกสมรส และเธอรู้สึกช็อกมากเมื่อได้รู้ความจริง

ก่อนหน้านี้ จองอูซอง ออกมายอมรับว่า เขาเป็นพ่อของลูกชายของ มุนกาบี ซึ่งเด็กน้อยคนนี้เกิดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งคู่ ไม่ได้คบหากันในฐานะคนรัก แต่มุนกาบีตั้งครรภ์ และให้กำเนิดลูกของจองอูซอง ฝ่ายหญิงอยากแต่งงาน แต่จองอูซองกลับไม่ต้องการแต่งงาน ไม่แม้แต่ต้องการร่วมเลี้ยงดูลูก และยืนยันจะการสนับสนุนทางการเงินเพียงเท่านั้น

สื่อบางสำนักรายงานว่า จองอูซอง ตั้งชื่อให้ลูก และช่วยมุนกาบีหาโรงพยาบาล จัดหาศูนย์ดูแลหลังคลอด รวมถึงแสดงความยินดีกับการเกิดของลูก แต่ขณะเดียวกัน Ten Asia รายงานว่า ข้อเท็จจริงนั้นแตกต่างจากที่สื่ออื่น ๆ นำเสนอ

แหล่งข่าววงในหลายคน เผยว่า จองอูซองและมุนกาบี พูดคุยกันเรื่องการแต่งงาน และการเลี้ยงดูลูก แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ มุนกาบี มีเพศสัมพันธ์กับจองอูซองหลายครั้งในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และแจ้งจองอูซองเรื่องการตั้งครรภ์ในเดือนตุลาคม มุนกาบีอยากแต่งงาน แต่จองอูซองปฏิเสธ ทั้งยังถามว่าเธอต้องการอะไร สุดท้าย มุนกาบี จึงตัดการติดต่อ และกลับมาติดต่ออีกครั้งตอนที่ใกล้คลอด ถึงอย่างนั้น จองอูซองก็ยังไม่ยอมแต่งงาน โดยยืนกรานที่จะรับผิดชอบแค่เรื่องเงิน 

กระทั่งล่าสุด มุนกาบี โพสต์ภาพและข้อความผ่านทางอินสตาแกรมว่า เธอรวบรวมความกล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องแอบคลอดลูก

จากข่าวในครั้งนี้ ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า จองอูซองหน้าไหว้หลังหลอก ทั้ง ๆ ที่ออกมาเรียกร้องให้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัย แต่กลับไม่รับผิดชอบลูกและแม่ของลูกอย่างเต็มที่ โดยหลายคนแสดงความคิดเห็นว่า “ก่อนที่จะเรียกร้องให้ปกป้องผู้ลี้ภัย ช่วยรับผิดชอบลูกตัวเองให้ดีก่อน”

จองอูซอง มักจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง และผู้ลี้ภัยอยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นนักแสดงที่มีภาพลักษณ์ “พลเมืองตื่นรู้” แต่กลับ “ไม่มีศีลธรรม” ในเรื่องส่วนตัว ซึ่งขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่เขาสร้างขึ้น

ทั้งนี้ หลายคนมองว่า เรื่องนี้ทำให้ภาพลักษณ์ที่ดูดีของจองอูซองพังทลาย และยิ่งไปกว่านั้น การที่เขามีลูกโดยไม่รับผิดชอบ ในขณะที่กำลังคบหาอยู่กับคนอื่นด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ยากที่จะกู้คืนชื่อเสียงกลับมาได้

thethaiger.com

11/27/2567

สปอยส์ When the phone ring ซีรี่ส์มาแรงสุดนาทีนี้

ซีรีส์ When the Phone Ring (เมื่อเสียงโทรศัพท์ดัง) เพิ่งออกอากาศไปแค่ 2 ตอน แต่สร้างกระแสฮือฮาให้แฟน ๆ ซีรีส์เกาหลีในไทยได้คึกคักกันปังๆ! ผลงานซีรีส์เรื่องใหม่จากช่อง MBC ที่สตรีมทาง Netflix นี้ ได้สองนักแสดงตัวท็อป ยูยอนซอก(Yoo Yeon Seok) และ แชซูบิน(Chae Soo Bin) มารับบทนำร่วมกันเป็นครั้งแรก พร้อมเสิร์ฟพล็อตสุดเข้มข้นที่ครบรสทั้งโรแมนติก ดราม่า และระทึกขวัญ


ซีรีส์ When the phone ring เล่าเรื่องราวของคู่สามีภรรยา แพคซาอน และ ฮงฮีจู ที่ดูเหมือนเป็นคู่รักสมบูรณ์แบบต่อหน้าคนอื่น แต่ความจริงแล้วกลับใช้ชีวิตแบบแยกกันอยู่ ความสัมพันธ์ที่เปราะบางของทั้งคู่ต้องเผชิญความตึงเครียด เมื่อได้รับโทรศัพท์ข่มขู่จากอาชญากรลึกลับ ซึ่งนำไปสู่ความโรแมนซ์ที่แสนดุเดือดและเหตุการณ์พลิกผันไม่คาดฝัน

นักแสดงนำชาย แพคซาอน (รับบทโดย ยูยอนซอก): โฆษกรัฐบาลอายุน้อยที่สุด ไร้ข่าวฉาว และเป็นลูกชายคนเดียวของผู้สมัครประธานาธิบดี เขาแต่งงานลับ ๆ กับฮงฮีจู ลูกสาวตระกูลสื่อใหญ่

นักแสดงนำหญิง ฮงฮีจู (รับบทโดย แชซูบิน): ลูกสาวคนรองของเจ้าของสื่อใหญ่ในเกาหลี เธอมีปัญหาด้านจิตใจจากเหตุการณ์ในวัยเด็ก ทำให้ไม่พูดและใช้ภาษามือแทน เธอทำงานในสถานีโทรทัศน์และพยายามต่อสู้กับความซับซ้อนในครอบครัวและความรัก

นักแสดงสมทบ จีซังอู: รุ่นพี่มหาลัยของฮีจู เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและยูทูบเบอร์ชื่อดัง เขาแอบรักฮีจูมาตลอดและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความหึงหวงจากแพคซาอน

นายูริ: ผู้ประกาศข่าวสาวที่แอบปลื้มแพคซาอนโดยไม่รู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว

ฮงอิลคยอง: พ่อเลี้ยงของฮีจู เจ้าของสื่อใหญ่ที่เต็มไปด้วยความลับและเชื่อมโยงกับอำนาจทางการเมือง

อินอา: พี่สาวของฮีจูที่หูหนวกและไม่พูด เธอมีความลึกลับในตัวเอง และเป็นตัวแปรสำคัญในความสัมพันธ์ของฮีจูกับซาอน





ซีรีส์ When the phone ring ไม่ได้มีเพียงพล็อตที่ซับซ้อนและน่าติดตาม แต่ยังดึงดูดผู้ชมด้วยการแสดงระดับคุณภาพที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง แฟนๆ ชาวไทยติดตามชมดราม่าและความเข้มข้นที่จะพุ่งถึงขีดสุดในตอนต่อๆ ไปได้ที่ Netflix เลย


ที่มา teenee.com


11/26/2567

เคป็อปฉาวอีก เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ แฉถูกซีอีโอค่ายเพลงล่วงละเมิดทางเพศ

ช็อกวงการเคป็อปอีกระลอก เมื่อสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ เดินหน้าแฉ ถูก CEO ค่ายเพลง ล่วงละเมิดทางเพศ ขอยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง ประชาชนจับตาวง Madein ใช่หรือไม่?



วงการ K-Pop เกาหลีใต้สั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวงน้องใหม่เปิดเผยว่าได้ถูก CEO ของค่ายต้นสังกัด ล่วงละเมิดทางเพศ โดยทางรายการ Case Chief ของช่อง JTBC ออกมาเปิดเผยว่า เกิร์ลกรุ๊ปเชื้อชาติเกาหลี-ญี่ปุ่น ที่เดบิวต์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถูก CEO ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และ co-CEO ของค่าย ล่วงละเมิดทางเพศ

จากรายงานของสำนักข่าว topstarnews ได้ระบุว่า สมาชิก A (นามสมมติ) ถูก CEO จับได้ว่า พาแฟนหนุ่มมาที่หอพัก หลังจากเสร็จสิ้นตารางงาน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 จากนั้น CEO จึงตำหนิเธออย่างหนัก พร้อมเสนอทางออกเพื่อให้เธอสามารถทำกิจรรมร่วมกับวงต่อไปได้ โดยการให้ A เป็นแฟนกับเขาหนึ่งวัน

ไอดอลสาว A คิดว่าการไปเดทกับ CEO คือ การกินข้าว ดูหนัง ใช้ชีวิตหนึ่งวันไปกับการเที่ยวเล่นเหมือนคนที่เป็นแฟนกัน และด้วยความที่เธอก็อยากจะทำงานในวงการบันเทิงต่อไป สุดท้ายจึงยอมรับข้อเสนอของ CEO ในที่สุด

เธออ้างว่า CEO พยายามจะจูบเธอ “เขาพูดว่า ‘ขอจูบหน่อยได้ไหม?’ แล้วก็พยายามจะสอดลิ้นเข้ามา ทั้ง ๆ ที่ฉันเม้มปากแน่น เขายังเลียคอ และหู แล้วก็จูบฉัน”

“ฉันพยายามจะปกป้องส่วนล่างของตัวเอง แต่เขาก็บอกว่า ‘ขยับนี่หน่อย’ แล้วก็สัมผัสฉัน เขาถามฉันว่า ‘ขอจับหน้าอกหน่อยได้ไหม? ขอจับก้นแค่ครั้งเดียวได้ไหม?’ ถึงแม้ฉันจะบอกว่าไม่ได้แต่เขาก็ยังทำอยู่เช่นนั้นนาน 2 ชั่วโมง”

“CEO ล็อกประตูห้องทำงานแล้วก็ลวนลามฉัน ตอนดูหนังในโรงหนัง เขาก็จูบฉัน และจับส่วนล่าง ล่วงละเมิดทางเพศฉัน ฉันปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีประโยชน์”

ทางด้านทนายความของต้นสังกัดออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า “สมาชิก A บอกว่า ‘ช่วยให้ฉันได้ทำงานกับวงต่อไป แล้วฉันจะเป็นแฟนกับคุณ 1 วัน’ เธอยังขอดูหนังก่อน อีกทั้งยังมีวิดีโอที่ทั้งคู่นั่งอยู่ในรถด้วยกัน โดยในวิดีโอนั้น ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันถึงความปรารถนาของพวกเขา และไม่มีคำพูด หรือการกระทำใด ๆ ที่ส่อแวว หรือก่อให้เกิดความสงสัยว่า พวกเขามีความสัมพันธ์กัน”

นอกจากนี้ ทางต้นสังกัดยังอ้างว่า “ตามประมวลกฎหมายแพ่ง ผู้เยาว์ คือ อายุ 19 ปี แต่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเยาวชน ผู้เยาว์ คือ อายุ 18 ปี เธอไม่ใช่ผู้เยาว์ ที่อยู่ภายใต้การคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเยาวชน และพระราชบัญญัติสวัสดิการเด็ก”

โดยต่อมา ตัวแทนค่ายจะพูดคุยกับพ่อแม่ของสมาชิกคนอื่น ๆ และเมื่อพ่อแม่ถามว่า ตอนที่คุณปล่อยลูก ๆ ของพวกเราไปด้วยความสบายใจ ฉันอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซึ่งทางตัวแทนก็เอาแต่ยอมรับว่า ได้ทำผิดพลาดไป

ทางฝั่งของพ่อแม่ได้ตอบโต้ตัวแทนค่ายกลับว่า “พวกเขาบอกว่า ถ้าไม่ทำตามคำพูดเหล่านั้นก็จะถูกเอาเปรียบ ในมุมมองของพวกเรา นี่ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการทรมานเด็ก ๆ รู้ไหมหรือไม่ว่า A ยังไม่บรรลุนิติภาวะ?”

แม้ว่า ไอดอลสาว และผู้ปกครองจะยืนยันว่าทุกสิ่งเป็นเรื่องจริง แต่ CEO กลับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมให้เหตุผลว่า “เป็นความเข้าใจผิด ไม่มีอะไรเกิดขึ้น” อย่างไรก็ตามมีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อพ่อแม่ของสมาชิกไปที่สำนักงาน เพื่อสอบถามเขา เขากลับเปลี่ยนท่าที และกล่าวขอโทษว่า “ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผม” รวมถึงสัญญาว่า จะลาออกจากตำแหน่ง และจะไม่พบปะกับสมาชิกเป็นการส่วนตัวอีกในอนาคต

ในส่วนของประเด็นเรื่องการยุบวง เขาอุทธรณ์ว่า “เป็นการยากที่จะยุบวง เพราะมีผู้ถือหุ้นอื่นอีก

หลังจากยืนยันจะลาออกจากตำแหน่ง ก็มีรายงานว่า ตัวแทนค่ายเดินทางไปดูสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปที่คอนเสิร์ต 3 วัน และเมื่อพ่อแม่ถามว่า “นั่นไม่ใช่การละเมิดสัญญาเหรอ?” ตัวแทนก็ทำเพียงกล่าวว่า จะไปแล้ว และก็เดินจากไป

อย่างไรก็ตาม 2 วันต่อมา เขาก็เดินทางไปญี่ปุ่น พร้อมกับเกิร์ลกรุ๊ป หนำซ้ำยังนั่งข้าง A อีกด้วย ซึ่งทำให้ A และสมาชิกคนอื่น ๆ ตกใจ และสั่นกลัวตลอดเที่ยวบิน หลังจากนั้น สุขภาพของไอดอล A ก็แย่ลง จนในที่สุดก็ประกาศหยุดพักกิจกรรม

ข่าวคราวนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ผู้คนไม่น้อยต่างจับตาว่า เกิร์ลกรุ๊ปดังกล่าวคือวงอะไร และไอดอลสาวผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นเป็นใคร โดยส่วนหนึ่งคาดเดาว่า เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่ว่าอาจจะเป็น “Madein” ที่เพิ่งเดบิวต์เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน โดยเป็นชาวญี่ปุ่น 4 คน และเกาหลี 3 คน ที่ในช่วงเกิดเหตุ เป็นเวลาเดียวกันกับที่มีสมาชิกหนึ่งคนหยุดพักกิจกรรม เนื่องจากปัญหาสุขภาพ

ที่มา thethaiger.com


11/23/2567

คิมโซอึน (Kim So Eun) เผยเห็น โจโบอา (Cho Bo Ah) เข้าพิธีวิวาห์ ทำให้เธอเริ่มอยากแต่งงาน

โดยในรายการ ‘Dolsing Fourmen’ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คิมจุนโฮ (Kim Jun-ho), ทักแจฮุน (Tak Jae Hoon), อีซังมิน (Lee Sang Min) และ อิมวอนฮี (Lim Won-hee) ได้เดินทางไปแคนาดาเพื่อนัดบอด



โดยมีนักแสดง จางฮีอิน (Jang Hee-jin), คิมโซอึน (Kim So Eun) และศิลปินซอลบิ (Solbi) มาร่วมรายการในครั้งนี้ในฐานะคู่เดทของสมาชิกของรายการ ยกเว้น คิมจุนโฮ ที่ตอนนี้มีแฟนอยู่แล้ว

ขณะที่ทั้ง 7 คน ได้ไปดื่มกาแฟกันข้างนอก และใบไม้ตกใส่ผมของคิมโซอึน อีซังมินรีบปัดใบไม้ให้เธอ ทำให้โดนแซวว่า

“เห็นไหม เขาจีบเธอ!”

คิมโซอึนขอบคุณอีซังมิน และบอกว่า

“หัวใจฉันเต้นเลยนะคะ!”

คิมโซอึนได้พูดถึงผู้ชายในอุดมคติของเธอ ว่าเธอชอบผู้ชายที่สะอาดและเป็นระเบียบ

“ฉันชอบความสะอาดค่ะ ฉันทำความสะอาดบ้านตลอดเลยก่อนจะออกไปกองถ่าย ฉันซักผ้าเองด้วย”

เธอพูดต่อ

“ฉันเลยชอบผู้ชายที่เป็นระเบียบและรู้จักดูแลตัวเอง”

ระหว่างคุยเรื่องแต่งงาน คิมโซอึนบอกว่างานแต่งงานที่เธอเพิ่งไปเข้าร่วมเปลี่ยนความคิดของเธอ

“ก่อนหน้านี้ ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องการแต่งงานซักเท่าไหร่ค่ะ แต่เพื่อนสนิทของฉัน โจโบอา เพิ่งจะแต่งงานไป และมันสวยงามมาก”

โดยงานแต่งงานของ โจโบอา นั้นได้ถูกจัดขึ้นที่ Aston House ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานกลางแจ้งของโรงแรม Grand Walkerhill Hotel 

คิมจุนโฮพูดขึ้นมาว่า

“มีคนดังคนอื่นจัดงานที่นี่ด้วยใช่ไหม?”

คิมโซอึนเลยตอบว่า

“ใช่ค่ะ คู่ของฮยอนบิน กับ ซนเยจิน”

คิมจุนโฮหันถามอีซังมินว่า

“นายก็แต่งงานที่นั่นไม่ใช่เหรอ”

คิมจุนโฮเสริมว่า

“ผมอยากจะบอกว่างานของเขาก็สวยงามเหมือนกันนะ” 

ทำเอาทุกคนในรายการหัวเราะ เพราะพวกเขาคือการรวมตัวกันของแก็งค์ชายที่หย่าร้างแล้ว

ที่มา SBSStarwww.popcornfor2.com

11/22/2567

NewJeans เตือน ADOR จะฉีกสัญญายกวง หากไม่แก้ไขการละเมิดสัญญา

เกิร์ลกรุ๊ปดัง ‘NewJeans’ ลั่นสมาชิกทั้งหมดจะฉีกสัญญายกวง หากบริษัท ADOR ต้นสังกัด ไม่มีการแก้ไขการละเมิดสัญญา 


TheKoreaTimes สำนักข่าวเกาหลีรายงานว่า นิวจีนส์ (NewJeans) เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง ได้ส่งหนังสือบอกกล่าว (certificate of contents) ถึง ADOR บริษัทต้นสังกัด ที่เป็นบริษัทภายใต้การดำเนินการของไฮบ์ (Hybe) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยในหนังสือเป็นข้อความเตือนเรื่องการแก้ไขการละเมิดสัญญา ทำให้สถานการณ์ล่าสุดของวงการ K-Pop กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่าง “มินฮีจิน” อดีต CEO ของ ADOR ผู้ปลุกปั้น NewJeans กับบริษัทแม่อย่าง “Hybe” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยขณะนั้นทาง Hybe ได้ปลด มินฮีจิน ออกจากตำแหน่งผู้บริหาร ภายหลังจากที่ทั้งสองอยู่ในสภาวะตึงเครียดมานานหลายเดือนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่า เธอพยายามเข้าควบคุม ADOR และ NewJeans

ในหนังสือบอกกล่าวจากทางนิวจีนส์ ซึ่งลงนามโดยสมาชิกทั้ง 5 คน ได้ระบุไว้ว่า พวกเธอต้องการให้ ADOR “แก้ไขการละเมิดสัญญาที่ร้ายแรงทั้งหมด ภายใน 14 วัน นับจากวันได้รับหนังสือ” และ “หาก ADOR ไม่ปฏิบัติตาม (พวกเรา) จะยกเลิกสัญญา”

ก่อนหน้านี้บริษัทไฮบ์ได้ตั้งกรรมการสอบสวนมินฮีจิน ในข้อหาพยายามเข้าควบคุม ADOR และการพยายามแยกตัวออกจาก Hybe พร้อมกับ NewJeans ซึ่งมินฮีจินได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และโต้กลับทาง Hybe ว่า ทางบริษัทใหญ่เป็นฝ่ายที่ละเลย NewJeans ทั้งยังให้ความสำคัญกับ ILLIT และ Le Sserafim เกิร์ลกรุ๊ปวงอื่นๆ ในสังกัดมากกว่า

นับตั้งแต่ที่มินฮีจินถูกปลดออกจากตำแหน่ง CEO ในเดือนสิงหาคม สมาชิก NewJeans ได้ดำเนินการเรียกร้องให้ Hybe นำเธอกลับมา และแก้ไขสถานการณ์ แต่ก็ดูเหมือนว่า Hybe จะไม่สนใจ จนนำไปสู่การส่งหนังสือบอกกล่าวในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์การส่งหนังสือฉบับนี้ ทำให้วง NewJeans ได้กลายเป็นที่จับตามองของแฟนๆ ทั่วโลก เพราะอาจนำไปสู่ข้อพิพาททางกฎหมายระหว่าง NewJeans กับ ADOR และ Hybe ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางของวงในอนาคต

ที่มา thethaiger.com


11/21/2567

พัคโบยอง (Park Bo Young) เล่าถึงคอมเม้นท์ที่ทำให้เธอตกใจระหว่างร่วมรายการ BDNS

พัคโบยอง (Park Bo Young) เล่าถึงคอมเม้นท์ที่ทำให้เธอตกใจ ระหว่างมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘BDNS’ ทาง YouTube ของ มุนซังฮุน (Moon Sang-hoon) วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา


โดยระหว่างคุยกันในรายการ พัคโบยอง ได้บอกว่าเธอชอบเล่นเกมออนไลน์มาก จากนั้นเล่าต่อว่าเธอเข้าสู่วงการนี้ได้ยังไง

“มีคนที่ฉันเคยแคร์มากๆ เวลาที่ฉันชอบใคร ฉันก็อยากจะเข้าถึงพวกเขา ฉันมักจะดูว่าคนคนนั้นชอบอะไร”

พัคโบยองบอกว่าคนที่เธอชอบ ชอบเล่นเกม League of Legends (LoL) 

“คนนั้นชอบเล่นเกมนี้บนมือถือ ฉันเลยคิดว่าฉันต้องลองเล่นดูบ้าง นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเล่น LoL ของฉันค่ะ”


หลังจากได้ฟังเธอเล่า มุนซังฮุนแสดงความกังวล เขามองไปที่กล้องแล้วพูดว่า

“ตอนนี้เรารู้แล้วว่า พัคโบยองเล่น LoL เพราะฉะนั้นผมหวังว่าคนที่เล่นอยู่จะพูดกันสุภาพขึ้นนะ คือคนเล่นเกมอาจจะพูดหยาบ แบบ ‘ไม่อยากจะเชื่อว่าแกเป็นคน’”

“จงจำเอาไว้ว่า คุณอาจจะกำลังเล่นเกมกับพัคโบยอง”

พัคโบยองพยักหน้าก่อนจะเล่าว่า

“ใช่ค่ะ ฉันเคยเจอคำพูดที่บอกว่า ‘ไม่อยากจะเชื่อว่าแกเป็นคน’ ด้วย แล้วฉันก็ได้ข้อความแบบ ‘แกเป็นแมลงเหรอ’ เยอะมาก”

มุนซังฮุนถึงกับบอกว่า

“ใครมันกล้าพูดแบบนั้นกับพัคโบยอง!” 

พัคโบยองเล่าว่าเกมออนไลน์ทำให้เธอสนุกได้อย่างไร

“ฉันรู้สึกว่าการที่เราเล่นเกมโดยไม่ได้ระบุตัวตนทำให้รู้สึกมีอิสระ ฉันเลยสนุกมากเลยค่ะ”

เธอพูดต่อ

“ในเกมไม่มีใครรู้จักฉัน เวลาฉันเจอใครด่ามา ฉันก็ด่ากลับ แบบว่า ‘มาเจอกันตัวต่อตัวไหม? เอาไหมละ ฉันพร้อมนะ’ แต่ฉันก็ไม่เคยทำมันนะคะ แค่แกล้งๆ”

มุนซังฮุนเลยหันไปบอกผู้ชมอีกครั้ง

“คนที่เล่นเกมออนไลน์ควรจะคิดเอาไว้เสมอว่าพัคโบยองกำลังคุยกับคุณอยู่ ใช้ภาษาสุภาพด้วย และระวังเรื่องคอมเม้นท์ว่าเป็นแมลงด้วย พยายามอย่าพูดหยาบ เข้าใจไหม?”


ที่มา SBSStarwww.popcornfor2.com

11/07/2567

ลือสนั่น เธอคนนี้อาจจะเป็นคนที่ทำโรเซ่ (Rosé) อกหักตอนแต่งเพลง "Gone"

กระแสข่าวลือในโลกออนไลน์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโรเซ่ (Rosé) สมาชิกวง BLACKPINK และแบซูจี (Bae Suzy) นักแสดงและนักร้องชื่อดังของเกาหลีใต้ ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2020 เมื่อมีชาวเน็ตสังเกตว่าทั้งคู่โพสต์ภาพถ่ายและแคปชั่นบนโซเชียลมีเดียที่มีความคล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังดูเหมือนจะอยู่ในสถานที่เดียวกันในช่วงเวลาใกล้เคียงกันด้วย สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดข่าวลือว่าอาจมีความสัมพันธ์เกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง


ก่อนหน้า โรเซ่ เคยเล่าในการให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงวัย 23 ปี เธอผ่านประสบการณ์ความรักที่เจ็บปวด ซึ่งทำให้แฟนๆ เริ่มคาดเดาว่าเพลง "Gone" ที่เธอเขียนในปี 2019 อาจสะท้อนถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ในอดีตของเธอ แต่โรเซ่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลในเพลงหรือความสัมพันธ์ที่กล่าวถึง

ต่อมาในปี 2023 โรเซ่มีข่าวลืออีกครั้งกับนักแสดงหนุ่มคังดงวอน (Kang Dong Won) แต่ทางต้นสังกัด YG Entertainment ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้อย่างชัดเจน ว่าไม่เป็นความจริง


ข่าวลือความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของโรเซ่ที่แฟน ๆ ตั้งข้อสังเกตจึงยังคงเป็นเพียงการคาดเดา ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากเจ้าตัวหรือแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ

เครดิตแหล่งข้อมูล : koreaboo

ที่มา teenee.com


11/06/2567

เชียร์ลีดเดอร์ ไวรัล Pikki Pikki อีจูอึน (Lee Ju-Eun) เตรียมอำลาทีมบุกตลาดต่างแดน

ลือสนั่น สาวเชียร์ลีดเดอร์สุดฮอต อีจูอึน (Lee Ju-Eun) เจ้าของไวรัล Pikki Pikki เตรียมโบกมือลาสนามเกาหลีใต้ หลังหมดสัญญาทีมต้นสังกัด KIA Tigers อาจเอาดีงานนอกประเทศ บุกตลาดต่างแดน



ข่าวสะเทือนวงการเบสบอลเกาหลีใต้ โดยเฉพาะบรรดาสาวกเสือโคร่ง “KIA Tigers” เมื่อมีข่าวลือออกมาว่า อีจูอึน (Lee Jooeun) เชียร์ลีดเดอร์สาวสวยเจ้าของท่าเต้นสุดฮิต ‘ปิกกี้ ปิกกี้ (Pikki Pikki)’ หมดสัญญากับต้นสังกัดแล้ว และอนาคตยังไม่แน่นอนว่าจะกลับมาเชียร์ให้กับทีม KIA Tigers อีกหรือไม่

อีจูอึน วัย 20 ปี นับว่าเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่โด่งดังที่สุดในลีกเบสบอลเกาหลี (KBO) ฤดูกาลนี้ ด้วยท่าเต้น “ปิกกี้ ปิกกี้” อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่เพียงแต่สร้างกระแสในเกาหลีใต้ แต่ยังดังไกลไปทั่วโลก แม้แต่ New York Times ก็ยังกล่าวถึงไวรัลนี้


ความนิยมของอีจูอึนส่งผลให้เธอ และเพื่อน ๆ เชียร์ลีดเดอร์ทีม KIA Tigers อีก 6 คน ได้รับเชิญไปแสดงท่าเต้น ‘ปิกกี้ ปิกกี้’ ที่ไต้หวัน เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม จนมีข่าวลือออกมาว่าทีมเบสบอลไต้หวันสนใจดึงตัวเธอไปร่วมงานด้วย


ล่าสุดดูเหมือนข่าวลือนี้จะไม่เป็นข่าวลืออีกต่อไป เมื่อสำนักข่าว My Daily ได้รายงานว่า สัญญาระหว่างอีจูอึนกับต้นสังกัดได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยขณะนี้เธอกำลังพักผ่อน และพิจารณาข้อเสนองานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงโอกาสในการทำงานที่ไต้หวัน ตามที่ ET Today สื่อไต้หวัน เคยรายงานไว้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา


การย้ายไปทำงานต่างประเทศของเชียร์ลีดเดอร์เกาหลี ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะปัจจุบันมีเชียร์ลีดเดอร์เกาหลีใต้ทำงานอยู่ในไต้หวันถึง 10 คน กระจายอยู่ใน 5 ทีม จากทั้งหมด 6 ทีม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกระแสความนิยมของวัฒนธรรม K-Pop ที่ส่งอิทธิพลไปทั่วเอเชีย รวมถึงวงการเชียร์ลีดเดอร์ด้วย


ทั้งนี้ แฟน ๆ KIA Tigers คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะได้เห็น อีจูอึน กลับมาสร้างสีสัน และเต้น ‘ปิกกี้ ปิกกี้’ ที่สนามกีฬาอีกครั้งหรือไม่ หรือสุดท้ายเธอจะไปโลดแล่นอยู่ในทีมของต่างแดน


สำหรับ‘ปิกกี้ ปิกกี้’ เป็นท่าเต้นสั้นๆ ที่เชียร์ลีดเดอร์จะลุกขึ้นเต้นเมื่อพิชเชอร์ขว้างลูก Strike ใส่ผู้ตีของทีมฝ่ายตรงข้าม ประกอบด้วยท่าทางง่ายๆ เช่น ชูนิ้วโป้ง โยกตัวตามจังหวะกลอง และเสียงเพลง โดยจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากคลิปที่อีจูอึนลุกขึ้นเต้นท่านี้ขณะกำลังแต่งหน้า จนกลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน


ที่มา hankyungthethaiger.com
ภาพจาก : my._.chuuu




 

11/05/2567

แดซอง(Daesung) BIGBANG ยกนางเอกดัง พัคโบยอง(Park Bo Young) เป็นสาวในอุดมคติ

ในการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของ 3 สมาชิก BIGBANG แทยัง แดซอง และ G-DRAGON ทางช่อง YouTube ของแดซอง เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กลายเป็นความวุ่นวายที่แสนพิเศษกับโมเมนต์ที่แฟนๆ ต่างคิดถึง


มีช่วงหนึ่งในคลิป แดซอง ได้มีการพูดถึง "สาวในอุดมคติ" ของเขาคือนักแสดงสาว 'พัคโบยอง (Park Bo Young)' เขาได้ยอมรับว่าเป็นแฟนคลับพัคโบยองมานาน แต่ที่ไม่กล้าเชิญในพูดคุยในช่องตามคำแนะนำของ แทยัง และG-DRAGON เพราะเขาไม่อยากให้เธอเข้าใจเขาผิด และกลัวว่าพัคโบยองอาจรู้สึก "ไม่สบายใจ"

ทำให้ทางด้าน แทยัง และ G-DRAGON ได้แซวต่ออีกว่าถ้าพัคโบยองต้องการโปรโมตอะไรบางอย่าง เธอก็สามารถมาที่รายการนี้ได้




เครดิตแหล่งข้อมูล : koreabooteenee.com

K-POP Mania Relate News